ร้อยไหมก้างปลา คือ การใช้ไหมที่เป็นลักษณะเงี่ยง (barb) หรือชื่อทางการแพทย์ว่า bidirectional barbed thread ร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนรอบเส้นไหม ทำให้เกิดแรงดึงบนผิวหน้ามากขึ้น แก้มจึงถูกยกกระชับเต่งตึง หน้าเรียวขึ้น
ด้วยความที่ไหมมีลักษณะเป็นเงี่ยงคล้ายกับก้างปลา หมอส่วนใหญ่จึงเรียกว่า ไหมก้างปลา เพื่อใช้อธิบายให้คนไข้เข้าใจง่ายขึ้น
ไหมเงี่ยง ชื่อทางการแพทย์คือ bidirectional barbed thread ชื่ออื่น เช่น ไหมก้างปลา, ไหมเงี่ยงกุหลาบ,ไหมก้างปลา 8D, ไหม Rose, ไหมฟันฉลาม, ไหมจระเข้, ไหมปิรันย่า, ไหมล็อค,ไหมค็อก ฯลฯ
เป็นไหมละลายที่มีเงี่ยงยื่นออกมา ช่วยเกี่ยวผิวให้ยกกระชับขึ้น แบ่งออกตามขนาดเส้นไหม คือไหมเงี่ยงใหญ่และไหมเงี่ยงเล็ก
มีลักษณะเหมือนตะขอ มีทั้งแบบเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง เมื่อสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง จะดึงรั้งเนื้อเยื่อผิวได้ดี ใช้ในการยกกระชับแก้มที่หย่อน ลดแก้มตอบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า และเป็นที่นิยม
ใช้ประมาณ 6-12 เส้นต่อการยกกระชับแก้มทั้ง 2 ข้าง
อยู่ได้ 4-12 เดือน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้
เป็นไหมเส้นสีน้ำเงิน ขนาด USP0 และ USP2
เป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม
ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ
ขณะที่ร้อย จะไม่รู้สึกระคายเคือง
ไหมละลายหมดประมาณ 6 เดือน แต่สามารถกระตุ้นในเกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จึงอาจเห็นว่าผิวยกกระชับขึ้นกว่าตอนก่อนร้อยได้ถึง 12 เดือนในบางราย
หลังร้อยไหมก้างปลา จะเห็นผลทันทีหลังทำ โดยหลังร้อยไหมอาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำเล็กน้อย ประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน